- หน้าแรก
- บทความน่ารู้
- โรคท้องเสีย
- 27 Mar 2024
โรคท้องเสีย (ถ่ายเหลว…โรคไม่ร้ายแต่ถ่ายไม่หยุด)
อาการท้องเสีย คืออาการที่เกี่ยวข้องกับระบบม้ามและกระเพาะอาหาร มักจะมีอาการถ่ายเหลว ถ่ายไม่มีมวล หรือถ่ายออกมาลักษณะอาหารที่ถูกย่อยไม่หมด หากมีการถ่ายอุจจาระเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปภายใน 24 ชั่วโมงจะถือว่าเป็นโรคท้องเสีย มักจะเกี่ยวข้องกับ อวัยวะลำไส้ใหญ่ อีกทั้งยังสัมพันธ์กับม้าม กระเพาะอาหาร ไต จะมีความเกี่ยวข้องกับโรคลำไส้อักเสบเฉียบพลันและเรื้อรัง โรคลำไส้บิดตัวมากเกินไป โรคระบบทางเดินอาหารผิดปกติ ในทางแพทย์แผนจีนจะสามารถแบ่งสาเหตุได้เป็น ปัจจัยจากภายนอก อาหาร อารมณ์ ม้ามและกระเพาะอาหารพร่อง ไตหยางพร่องจากโรคประจำตัวหรือผลจากยา
1. ปัจจัยภายนอก: ความเย็นชื้นกระทบม้าม ทำให้ท้องอืดอาหารไม่ย่อย ถ่ายเหลวเหมือนอาหารที่ยังย่อยไม่หมดความร้อนชื้นสะสมในลำไส้ ทำให้ลำไส้บิดตัวมากเกินไป
2. อาหาร: อาหารที่หวานมัน เผ็ด มักจะทำให้ม้ามและกระเพาะทำงานหนักเกิดความร้อนชื้นภายในสะสมในลำไส้ อาหารเย็นชื้น เช่นน้ำแข็ง อาหารทะเลสด อาหารที่ไม่ได้ผ่านการทำให้สุก จะทำให้ม้ามและกระเพาะอาหารขาดสมดุล
3. อารมณ์: อารมณ์โกรธมักจะกระทบกับตับทำให้ลมปราณตับติดขัดกระทบม้ามและกระเพาะอาหารทำให้ขาดสมดุลปกติ ระบบย่อยอาหารไม่ดีความชื้นสะสมในลำไส้และม้าม
4. ภาวะร่างกายอ่อนแอ: เกิดได้จากโรคประจำตัวและการหักโหมทำงานหนักทำให้ ระบบม้ามและกระเพาะอาหารทำงานน้อยลงเกิดความเย็น จากการพร่องของหยาง รวมไปถึงไตหยางไม่เพียงพอทำให้การผลักดันร่างกายให้ขับเคลื่อนได้น้อยลง เกิดความชื้นสะสมในลำไส้และม้าม
สาเหตุทั้งหมดจะส่งผลกระทบให้ลำไส้ขาดสมดุล ไม่สามารถแยกระหว่างสารอาหารที่ดีและกากอาหาร จึงจะสังเกตได้ว่าหากมีอาการถ่ายเหลวแล้วมักจะพบเจอเศษอาหารที่ไม่ถูกย่อยและไม่ดูดซึมออกมาพร้อมกัน
สาเหตุทั้งหมดจะส่งผลกระทบให้ลำไส้ขาดสมดุล ไม่สามารถแยกระหว่างสารอาหารที่ดีและกากอาหาร จึงจะสังเกตได้ว่าหากมีอาการถ่ายเหลวแล้วมักจะพบเจอเศษอาหารที่ไม่ถูกย่อยและไม่ดูดซึมออกมาพร้อมกัน
แล้วเราจะสามารถแยกระหว่าง โรคท้องเสีย โรคบิด และโรคอหิวาตกโรค ได้อย่างไร
โรคท้องเสีย |
โรคบิด | โรคอหิวาตกโรค |
- ถ่ายอุจจาระเหลวมากกว่า 3 ครั้ง | - ถ่ายอุจจาระเหลวมากกว่า 3 ครั้ง สามารถพบหนองหรือเลือดปนได้ | - ถ่ายอุจจาระเหลวมากกว่า 3 ครั้ง พร้อมอาเจียนและหอบ |
- รู้สึกอ่อนเพลีย ช็อกหมดสติได้ | - รู้สึกอ่อนเพลีย ช็อกหมดสติได้ | - รู้สึกอ่อนเพลีย ช็อกหมดสติได้ |
- หลังจากถ่ายอุจจาระรู้สึกดีขึ้น | - หลังจากถ่ายอุจจาระแล้วเหมือนถ่ายไม่สุด | - ถ่ายเหลวและอาเจียนไม่หยุด |
- ไม่มีไข้ | - มีไข้ | - มีไข้ หนาวสั่น |
- ไม่มีคลื่นไส้ อาเจียน | - สามารถพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน | - คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง |
ลักษณะอาการท้องเสียที่เกิดจากอวัยวะที่แตกต่างกันอาการทำให้มีอาการต่างกัน
- ระบบย่อยอาหารผิดปกติ: ม้ามไม่สามารถอาหารเปลี่ยนแปลงเป็นสารอาหารได้ ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ไม่สามารถแบ่งประเภทสารอาหารและกากอาหารได้ จึงเกิดการดูดซึมน้อยลง ทำให้ถ่ายเหลวและพบเศษอาหารที่ไม่ถูกย่อย
- ไตหยางพร่อง: ทำให้ม้ามและกระเพาะอาหารไม่มีแรงในการย่อย ทำให้การผลิตพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนร่างกายลดลง อาการนี้ในช่วงวัยกลางคนและผู้สูงวัย เรียกว่าปวดท้องช่วงบ่ายเป็นประจำ (五更泻) จำนวนที่มีอาการท้องเสีย 3-5 ครั้ง/วัน
วิธีการรักษาในแพทย์แผนจีนที่ตอบโจทย์โรคท้องเสีย
- โรคท้องเสียมักจะใช้วิธีการรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน โดยการขับชื้นเพิ่มการทำงานระบบย่อยอาหารให้สมบูรณ์
แนวทางการรักษา โดยแพทย์แผนจีนผู้เชี่ยวชาญ
- การฝังเข็มตามเส้นลมปราณ รวมถึงการกระตุ้นไฟฟ้า
- การครอบแก้วแบบแพทย์แผนจีน
- การรมควันยาสมุนไพรจีน
- การกดจุดนวดทุยหนา
- การรับประทานสมุนไพรจีน
แนวทางป้องกัน ด้วยตัวเอง
- ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทำจิตใจให้สบาย ไม่วิตกกังวลหรือครุ่นคิด
- เลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย รสชาติไม่จัดจาน ทานอาหารที่บำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ย่อยยาก อาหารรสชาติเผ็ด หวาน มัน หลีกเลี่ยงการทานนมวัวและเอ็นสัตว์
- ควรทานเกลือแร่และแร่ธาตุสำคัญเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำหลังจากถ่ายอุจจาระ แพทย์แผนจีนจะแนะนำให้ทานน้ำต้มเกลือเล็กน้อย น้ำต้มข้าวเพื่อบำรุงลมปราณกระเพาะอาหาร
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารฤทธิ์เย็นและรสขม แนะนำให้ทานเป็นน้ำต้มขิงเพื่อเพิ่มลมปราณในการทำงานของม้ามและกระเพาะอาหาร